Research
Discussion Paper
PIERspectives
aBRIDGEd
PIER Blog
Events
Conferences
Research Workshops
Policy Forums
Seminars
Exchanges
Research Briefs
Community
PIER Research Network
Visiting Fellows
Funding and Grants
About Us
Our Organization
Announcements
PIER Board
Staff
Work with Us
Contact Us
TH
EN
Research
Research
Discussion Paper
PIERspectives
aBRIDGEd
PIER Blog
Saving and Dissaving Behaviour in an Aged Society
Latest discussion Paper
Saving and Dissaving Behaviour in an Aged Society
ทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย: ปัจจัยและความท้าทายในการเข้าสู่โลกดิจิทัล
Latest aBRIDGEd
ทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย: ปัจจัยและความท้าทายในการเข้าสู่โลกดิจิทัล
Events
Events
Conferences
Research Workshops
Policy Forums
Seminars
Exchanges
Research Briefs
BOT Symposium 2025: Towards Safer and More Inclusive Digital Finance
Upcoming conference
BOT Symposium 2025: Towards Safer and More Inclusive Digital Finance
การประชุมเครือข่ายนักวิจัยนโยบายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำครั้งที่ 6 “เครื่องมือการเงินและการคลัง: กุญแจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ”
Latest policy forum
การประชุมเครือข่ายนักวิจัยนโยบายด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและเศรษฐกิจคาร์บอนต่ำครั้งที่ 6 “เครื่องมือการเงินและการคลัง: กุญแจสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ”
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
Puey Ungphakorn
Institute for
Economic Research
Puey Ungphakorn Institute for Economic Research
Community
Community
PIER Research Network
Visiting Fellows
Funding and Grants
PIER Research Network
PIER Research Network
Funding & Grants
Funding & Grants
About Us
About Us
Our Organization
Announcements
PIER Board
Staff
Work with Us
Contact Us
Staff
Staff
ประกาศรับสมัครทุนสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ประจำปี 2568 รอบที่ 2 (ประเภททั่วไป)
Latest announcement
ประกาศรับสมัครทุนสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ประจำปี 2568 รอบที่ 2 (ประเภททั่วไป)
aBRIDGEdabridged
Making Research Accessible
QR code
Year
2025
2024
2023
2022
...
Topic
Development Economics
Macroeconomics
Monetary Economics
Financial Markets and Asset Pricing
...
/static/58a8cd6a84adca91bf19dfa39caa0e47/41624/cover.jpg
26 August 2025
20251756166400000

ทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย: ปัจจัยและความท้าทายในการเข้าสู่โลกดิจิทัล

เข้าใจผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางผ่านการสำรวจข้อมูลปฐมภูมิ
Katikar Tipayalai
ทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย: ปัจจัยและความท้าทายในการเข้าสู่โลกดิจิทัล
excerpt

ทักษะดิจิทัล (digital skills) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่บุคคลในสังคมสมัยใหม่จำเป็นต้องมีเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน ทักษะดังกล่าวไม่เพียงส่งเสริมความสะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม ยังมีกลุ่มประชากรบางส่วนที่ไม่สามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเปราะบาง งานศึกษานี้มุ่งวิเคราะห์ระดับทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุที่อยู่ในกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย และศึกษาว่าปัจจัยใดบ้างที่ส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลและการเข้าถึงสวัสดิการภาครัฐ จังหวัดลำปางได้รับเลือกเป็นพื้นที่ศึกษาเนื่องจากมีสัดส่วนผู้สูงอายุมากและมีความหลากหลายด้านเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งเหมาะสมต่อการสะท้อนบริบทของสังคมสูงวัยระดับภูมิภาค งานวิจัยนี้ใช้ระเบียบวิธีเชิงปริมาณ โดยอาศัยการเก็บข้อมูลปฐมภูมิจากกลุ่มผู้สูงอายุเปราะบางในพื้นที่ ผ่านแบบสอบถามที่มีโครงสร้างชัดเจน เพื่อประเมินระดับทักษะดิจิทัล การเข้าถึงเทคโนโลยี และอุปสรรคในการใช้งานอุปกรณ์ดิจิทัล ทั้งนี้ การวัดทักษะดิจิทัลในงานวิจัยนี้อิงตามกรอบสมรรถนะดิจิทัลสำหรับประชาชนของสหภาพยุโรป (European Commission) หรือ DigComp 2.2 (Vuorikari et al., 2022)

จุดกำเนิดของความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล

แนวคิดเรื่องความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลถูกกล่าวถึงอย่างแพร่หลายในวรรณกรรมวิชาการ (Van Dijk, 2006; Wei et al., 2011) และปัจจุบันเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไปว่า ประกอบด้วยมิติที่เชื่อมโยงกันสามระดับ (three levels of digital divide) ได้แก่

  1. ความเหลื่อมล้ำด้านการเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งรวมถึงความพร้อมในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและการมีอุปกรณ์ดิจิทัล เช่น คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ตโฟน โดยมีเหตุผลหลักมาจากข้อจำกัดทางด้านเศรษฐกิจและสังคม
  2. ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะในการใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล สะท้อนถึงความแตกต่างในการมีส่วนร่วมและการประยุกต์ใช้เครื่องมือดิจิทัลในชีวิตประจำวัน ความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลในระดับที่สองนี้ แม้ว่าประชากรในชาตินั้น ๆ สามารถเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีได้ แต่ยังไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเนื่องจากมีทักษะและความรู้ที่จำกัด
  3. ความเหลื่อมล้ำด้านการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งในรูปแบบที่จับต้องได้ (tangible) อาทิเช่น โอกาสในการจ้างงาน การเข้าถึงการศึกษา หรือการมีรายได้ที่มากขึ้น และที่จับต้องไม่ได้ (intangible) เช่น การมีคุณภาพชีวิตและระดับสังคมที่ดีขึ้น

หลักฐานเชิงประจักษ์ในต่างประเทศ

งานวิจัยหลายชิ้นแสดงให้เห็นว่าระดับทักษะดิจิทัลมีแนวโน้มแปรผันตามปัจจัยต่าง ๆ โดยเฉพาะสถานะทางเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็นทางด้านรายได้ หรือระดับการศึกษา ในขณะที่มักมีความสัมพันธ์เชิงลบกับการเพิ่มขึ้นของอายุ (Midao et al., 2020; Garcia et al., 2021) กล่าวคือผู้สูงอายุจะมีแนวโน้มที่จะมีทักษะดิจิทัลต่ำกว่าประชากรกลุ่มอื่นในสังคม ข้อมูลดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลที่ยังคงดำรงอยู่ และยังมีประชากรกลุ่มใหญ่ที่ไม่สามารถก้าวตามการพัฒนาทางเทคโนโลยีได้ (Xie et al., 2021)

อย่างไรก็ดี ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในหลายประเทศทั่วโลกได้มีความพยายามอย่างจริงจังในการแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลของประชากรกลุ่มดังกล่าว ผ่านแนวทางการดำเนินงานที่หลากหลาย เช่น นโยบาย Seniors Go digital Programme เพื่อสนับสนุนการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลขั้นพื้นฐานของผู้สูงอายุ (เช่น การใช้สมาร์ทโฟนสำหรับการเข้าถึงสวัสดิการของรัฐ) ในประเทศสิงคโปร์ หรือนโยบาย Smart Silver Academy เพื่อให้ความรู้ด้านดิจิทัลในชุมชนผู้สูงอายุของประเทศเกาหลีใต้ นโยบายเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้กลุ่มผู้สูงอายุสามารถสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น พร้อมทั้งเพื่อเพิ่มโอกาสให้กับคนกลุ่มนี้ในการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลที่เหมาะสม สามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ และลดภาระต่อครอบครัวในช่วงหลังวัยเกษียณอายุได้

ระดับทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในไทยเป็นอย่างไร ?

งานศึกษานี้ให้ความสำคัญกับความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลทั้งสามระดับข้างต้น โดยมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ระดับทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุที่มีความเปราะบาง (ผู้มีอายุ 60 ปีขึ้นไปและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) รวมถึงความสามารถในการเข้าถึงสวัสดิการของภาครัฐ โดยการเก็บข้อมูลดำเนินการในจังหวัดลำปาง ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีสัดส่วนประชากรสูงวัยมากที่สุดในประเทศ จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 370 คนใน 5 มิติของทักษะดิจิทัล (Vuorikari et al., 2022) ได้แก่ การรู้เท่าทันข้อมูลข่าวสาร การสื่อสารและการทำงานร่วมกัน ความปลอดภัยออนไลน์ การแก้ปัญหาเชิงดิจิทัล และความน่าเชื่อถือในการใช้งานออนไลน ์ พบว่าผู้เข้าร่วมกว่าร้อยละ 76 ประเมินตนเองว่ามีทักษะดิจิทัลในระดับต่ำ โดยมีความคุ้นเคยที่จำกัดกับเครื่องมือและวิธีปฏิบัติทางดิจิทัล หนึ่งในคำอธิบายที่เป็นไปได้คือ ความถี่ในการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จำกัด (รูปที่ 1) อันเนื่องมาจากข้อจำกัดในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและเครื่องมือดิจิทัล ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาโดยใช้แบบจำลองโลจิต (Logit Model) ร่วมกับการวิเคราะห์ Marginal Effect ผลลัพธ์ที่ได้คือ ผู้สูงอายุที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ส่วนตัวและสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตส่วนบุคคลได้ มีแนวโน้มที่จะมีทักษะดิจิทัลสูงกว่าผู้ที่ไม่มี อยู่ร้อยละ 22.42 และ 9.64 ตามลำดับ โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01

รูปที่ 1: ความถี่ของการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้สูงอายุ
หายเหตุ: หน่วย=ร้อยละที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้วิจัย (จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 370 คน)

แม้ว่าความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลจะเกิดจากการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก แต่จากการศึกษานี้ยังพบว่าระดับรายได้และทัศนคติของผู้สูงอายุก็เป็นปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคต่อ การพัฒนาทักษะที่เกี่ยวข้องเช่นเดียวกัน โดยการศึกษาครั้งนี้ได้ทำการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีผลต่อความเป็นไปได้ในการมีทักษะดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะเปราะบาง ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่อเดือนสูงขึ้น มีแนวโน้มที่จะมีทักษะดิจิทัลสูงกว่าผู้สูงอายุกลุ่มที่พึ่งพาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแต่เพียงอย่างเดียว เมื่อเชื่อมโยงผลลัพธ์ดังกล่าวกับแนวคิดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลทั้งสามระดับ พบว่า การไม่มีอุปกรณ์และอินเทอร์เน็ตส่วนบุคคลสะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำในระดับแรก (การเข้าถึง) ขณะที่รายได้ที่สูงขึ้นช่วยเพิ่มโอกาสในการมีทักษะดิจิทัล สะท้อนถึงทั้งความเหลื่อมล้ำระดับที่หนึ่ง (การเข้าถึง) และระดับที่สอง (ทักษะและการใช้งาน) และสุดท้ายกลุ่มที่มีทักษะดีกว่าย่อมมีแนวโน้มเข้าถึงบริการและสวัสดิการที่ใช้เทคโนโลยีมากกว่า ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการใช้เทคโนโลยีที่สะท้อนถึงความเหลื่อมล้ำระดับที่สูงที่สุดคือระดับสาม

สาเหตุและอุปสรรคต่อการพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุ

สาเหตุหลักของการขาดแคลนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้สูงอายุนั้น มาจากการไม่เห็นความจำเป็นของการมีอุปกรณ์ ไม่มีกำลังซื้อ และไม่มีทักษะในการใช้อุปกรณ์ดังกล่าว (รูปที่ 2) ซึ่งหนึ่งในปัจจัยสำคัญประการหนึ่งเกิดจากลักษณะงานที่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางส่วนใหญ่ยังคงประกอบอาชีพที่มักเป็นงานรับจ้างรายวัน เช่น งานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน คนดูแลความสะอาด หรือการเก็บของเก่าขาย งานเหล่านี้ต้องการเพียงกำลังแรงงาน จึงทำให้ไม่เห็นความจำเป็นของทักษะดิจิทัล และมากไปกว่านั้น ปัจจัยทางเศรษฐกิจ อาทิ ข้อจำกัดทางการเงินและรายได้ที่ไม่เพียงพอ เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญในการขาดทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุซึ่งกลายเป็นวงจรแห่งความเหลื่อมล้ำที่ยากจะหลุดออกมาได้

รูปที่ 2: เหตุผลของการไม่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของผู้สูงอายุ
ที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้วิจัย (จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 370 คน)

นอกจากนี้ การศึกษาครั้งนี้ยังพบว่าปัญหาทางการเงินที่ผู้สูงอายุไม่สามารถจัดสรรรายได้เพื่อการจัดซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดต่อการเรียนรู้และพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุ รองลงมาคือการขาดความสนใจและการรับรู้ถึงความสำคัญของทักษะดิจิทัล การขาดเวลาในการพัฒนาทักษะ การขาดโอกาสทางการเรียนรู้ การขาดแหล่งเรียนรู้หรือผู้เชี่ยวชาญในการถ่ายทอดความรู้ และการขาดอุปกรณ์ในการเรียนรู้ที่เหมาะสมตามลำดับ (รูปที่ 3)

รูปที่ 3: อุปสรรคในการเรียนรู้เทคโนโลยีดิจิทัลของผู้สูงอายุ
ที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้วิจัย (จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 370 คน)

ทักษะดิจิทัลใดบ้างที่ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางต้องการ ?

เมื่อทำการสำรวจความต้องการในการเรียนรู้ทักษะดิจิทัลในมุมมองของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบาง (รูปที่ 4) พบว่าส่วนใหญ่ให้ความสำคัญสูงสุดต่อการพัฒนาทักษะการสื่อสารออนไลน์ เนื่องจากผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีสถานภาพการครองเรือนโดยลำพัง และมีความต้องการติดต่อสื่อสารและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับลูกหลานที่ส่วนใหญ่ต้องทำงานห่างไกลหรือแยกไปตั้งครอบครัวใหม่ การพัฒนาทักษะดังกล่าวอาจส่งผลให้ผู้สูงอายุมีความสุขเพิ่มขึ้นและช่วยเพิ่มความรู้สึกในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคม (social inclusion) ทักษะที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับที่สองคือ การค้นหาข้อมูลออนไลน์ โดยมองว่าการรับรู้ข่าวสารผ่านช่องทางดั้งเดิมอย่างวิทยุและโทรทัศน์นั้นไม่เพียงพอ และขาดความรวดเร็วในการติดตามสถานการณ์ปัจจุบัน ในขณะที่อันดับสามคือทักษะการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เบื้องต้น โดยเฉพาะการใช้สมาร์ทโฟน ซึ่งถือเป็นทักษะจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันและอาจช่วยในการสร้างรายได้เสริมได้เช่นเดียวกัน

รูปที่ 4: ทักษะที่ผู้สูงอายุเห็นว่าสำคัญในการชีวิตประจำวันและมีความต้องการพัฒนา
ที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้วิจัย (จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 370 คน)

ในประเด็นการเข้าถึงสวัสดิการจากภาครัฐผ่านระบบออนไลน์ที่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีประสบการณ์รับสวัสดิการผ่านระบบดังกล่าว โดยจะเป็นการลงทะเบียนข้อมูลบุคคลในระบบออนไลน์สำหรับการรับสวัสดิการในครั้งแรก ซึ่งผู้สูงอายุส่วนใหญ่จะใช้อุปกรณ์ของบุตรหลานและพึ่งพาความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัว ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ Knodel et al. (2015) ที่ชี้ให้เห็นถึงรูปแบบการดูแลผู้สูงอายุในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ครอบครัวยังคงมีบทบาทสำคัญเป็นกลไกหลักในการให้การดูแลและให้ความช่วยเหลือผู้สูงอายุ เนื่องจากยังขาดระบบสวัสดิการหรือบริการดูแลระยะยาวจากภาครัฐอย่างครอบคลุม ขณะที่ผู้สูงอายุบางส่วนสามารถดำเนินการสมัครหรือกรอกข้อมูลผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วยความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และผู้สูงอายุที่เหลือสามารถเข้าถึงสวัสดิการได้จากการสนับสนุนและคำแนะนำจากญาติพี่น้อง อย่างไรก็ตาม มีเพียงร้อยละหนึ่งของผู้สูงอายุเท่านั้นที่สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเอง (รูปที่ 5)

รูปที่ 5: ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุสามารถรับสวัสดิการผ่านระบบออนไลน์
หายเหตุ: หน่วย=ร้อยละที่มา: รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลโดยผู้วิจัย (จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 370 คน)

ปัจจัยที่ส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุ

ผลการศึกษาชี้ให้เห็นปัจจัยสำคัญสองประการที่มีความสัมพันธ์เป็นบวกกับการพัฒนาทักษะดิจิทัล ได้แก่ รายได้ที่สูงขึ้น และการเข้าถึงทรัพยากรดิจิทัล โดยเฉพาะการเป็นเจ้าของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ สิ่งที่น่าสนใจจากผลลัพธ์ดังกล่าวคือ ผู้สูงอายุส่วนใหญ่ที่สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ในช่องทางออนไลน์ได้นั้นจะเป็นการยืมใช้อุปกรณ์และพึ่งพาทักษะดิจิทัลของผู้อื่น (ลูกหลานหรือญาติพี่น้อง) ดังนั้น การเข้าถึงบริการออนไลน์ได้ก็ไม่ได้ช่วยให้เห็นถึงระดับทักษะดิจิทัลในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางแต่อย่างใด ในทางกลับกันกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นของตนเองนั้น จะมีทักษะดิจิทัลที่สูงมากกว่าอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ดี การอาศัยอยู่กับลูกหลานไม่ได้ส่งผลบวกต่อการพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งขัดแย้งกับงานวิจัยในประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นว่าวัฒนธรรมครอบครัวขนาดใหญ่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล จริงอยู่ที่ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีลักษณะการอยู่อาศัยในรูปแบบครอบครัวขนาดใหญ่ที่คล้ายคลึงกัน แต่อย่างไรก็ตามยังมีความแตกต่างทั้งทางบริบทเชิงเศรษฐกิจและสังคมอยู่ดี ยกตัวอย่างเช่น จากงานวิจัยของ Xiong & Zuo (2019) และ Cheng et al. (2021) ที่พบว่าการอยู่ร่วมกันในรูปแบบครอบครัวใหญ่สามารถสร้างกลไกการถ่ายทอดทักษะทางดิจิทัลได้จริง แต่ในส่วนของประเทศไทยนั้น ผลลัพธ์จากงานวิจัยชิ้นนี้กลับแตกต่างออกไป เหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือ แม้ว่าผู้สูงอายุที่มีความเปราะบางในไทยจะอยู่อาศัยร่วมกับลูกหลาน แต่สมาชิกทุกคนในครอบครัวต่างมีภาระหน้าที่ของตนเอง ทั้งการเรียนและการทำงาน จึงไม่มีเวลาเพียงพอที่จะร่วมกันพัฒนาทักษะดิจิทัลอย่างจริงจัง หรือกล่าวสรุปอีกนัยหนึ่ง การอยู่ร่วมกันในรูปแบบครอบครัวใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ไม่ได้สะท้อนถึงบริบทในประเทศไทย ดังนั้น ผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ร่วมกันกับบุตรหลานจึงไม่ได้นำไปสู่การลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญแต่อย่างใด

บทสรุป

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลกลายเป็นปัจจัยพื้นฐานของชีวิตประจำวัน ผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยจำนวนมากยังคงขาดโอกาสในการเข้าถึงและพัฒนาทักษะดิจิทัลที่จำเป็น ทำให้เสี่ยงต่อการถูกตัดขาดหรือลดทอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูล สวัสดิการ และโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม ผลการศึกษาเชิงสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงข้อจำกัดและความท้าทายหลายประการในการพัฒนาทักษะดิจิทัลของผู้สูงอายุกลุ่มเปราะบางในประเทศไทย ทั้งในด้านทัศนคติ การเข้าถึงทรัพยากรดิจิทัล ความสามารถในการใช้อุปกรณ์ และปัจจัยทางเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และการปรับตัวในยุคเทคโนโลยี การปรับเปลี่ยนทัศนคติต่อเทคโนโลยีอาจเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ แต่จำเป็นต้องดำเนินการควบคู่กับการสนับสนุนที่เหมาะสมและการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตของผู้สูงอายุ การมีอุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐานที่เพียงพออาจเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการฝึกฝนทักษะได้ก็จริง แต่ก็คงไม่ใช่เงื่อนไขเดียวในการยกระดับความสามารถเชิงดิจิทัลอย่างยั่งยืน

เอกสารอ้างอิง

Cheng, H., Lyu, K., Li, J., & Shiu, H. (2021). Bridging the digital divide for rural older adults by family intergenerational learning: A classroom case in a rural primary school in China. International Journal of Environmental Research and Public Health, 19(1), 371.
Garcia, K. R., Rodrigues, L., Pereira, L., Busse, G., Irbe, M., Almada, M., Christensen, C., Midao, L., Dias, I., Heery, D., & others. (2021). Improving the digital skills of older adults in a COVID-19 pandemic environment. Educational Gerontology, 47(5), 196–206.
Knodel, J., Teerawichitchainan, B., Prachuabmoh, V., & Pothisiri, W. (2015). The situation of Thailand’s older population: An update based on the 2014 Survey of Older Persons in Thailand. HelpAge International.
Midao, L., Pedreiro, E., Pinho, M. S., Dias, I., Almada, M., Garcia, K. R., Rodrigues, L. S., Christensen, C., Pereira, P. T., Bertram, M., & others. (2020). Computer skills among the community-dwelling 55+ European population based on Survey of Health, Ageing, and Retirement in Europe. International Journal of Digital Literacy and Digital Competence (IJDLDC), 11(1), 31–45.
Van Dijk, J. A. (2006). Digital divide research, achievements and shortcomings. Poetics, 34(4–5), 221–235.
Vuorikari, R., Kluzer, S., & Punie, Y. (2022). DigComp 2.2: The Digital Competence Framework for Citizens—With new examples of knowledge, skills and attitudes. Publications Office of the European Union.
Wei, K. K., Teo, H. H., Chan, H. C., & Tan, B. C. (2011). Conceptualizing and testing a social cognitive model of the digital divide. Information Systems Research, 22(1), 170–187.
Xie, B., Charness, N., Fingerman, K., Kaye, J., Kim, M. T., & Khurshid, A. (2021). When going digital becomes a necessity: Ensuring older adults’ needs for information, services, and social inclusion during COVID-19. In Older Adults and COVID-19 (pp. 181–191). Routledge.
Xiong, J., & Zuo, M. (2019). How does family support work when older adults obtain information from mobile internet? Information Technology & People, 32(6), 1496–1516.
Katikar Tipayalai
Katikar Tipayalai
Chulalongkorn University
Topics: DevelopmentProductivity and Technological Change
Tags: digital disparityvulnerable older adultsprimary survey data
The views expressed in this workshop do not necessarily reflect the views of the Puey Ungphakorn Institute for Economic Research or the Bank of Thailand.

Puey Ungphakorn Institute for Economic Research

273 Samsen Rd, Phra Nakhon, Bangkok 10200

Phone: 0-2283-6066

Email: pier@bot.or.th

Terms of Service | Personal Data Privacy Policy

Copyright © 2025 by Puey Ungphakorn Institute for Economic Research.

Content on this site is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 3.0 Unported license.

Creative Commons Attribution NonCommercial ShareAlike

Get PIER email updates

Facebook
YouTube
Email