Adaptation to Climate Change through New Theory Agriculture
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2564 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ได้รับเกียรติจาก ดร.กรรณิการ์ ธรรมพานิชวงค์ จากสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) มาบรรยายในงาน Policy Forum: Discourses on Sustainability ในหัวข้อ "Adaptation to Climate Change through New Theory Agriculture"
การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) มีผลกระทบต่อการเกษตรในหลายมิติ ทั้งรูปแบบฤดูกาล ปริมาณน้ำและน้ำฝนที่เปลี่ยนไป รวมทั้งภาวะอากาศสุดขั้วที่มีความถี่และความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีผลต่อระบบนิเวศน์ทางเกษตรกร และทำให้ผลผลิตทางการเกษตรน้อยลง ซึ่งปัจจุบัน 2 ใน 3 ของเกษตรกรไทยทำเกษตรแบบปลูกพืชเดี่ยว และมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอย่างมาก
ดร.กรรณิการ์ ได้เล่าถึงผลของการที่เกษตรกรหันมาทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ (New Theory Agriculture: NTA) ต่อรายได้ ค่ายใช้จ่ายทางการเกษตรและรายจ่ายของเกษตรกร การทำเกษตรทฤษฎีใหม่นี้มีการผสมผสานการจัดการน้ำและการปรับเปลี่ยนพืชที่ปลูก โดยการใช้พันธุ์พืชที่ทนต่อภาวะแล้ง น้ำท่วม หรือการปลูกพันธ์พืชที่หลากหลายมากขึ้น ซึ่งการจัดการน้ำที่ดีและการปลูกพืชที่หลากหลายก็จะช่วยให้เกษตรกรรับมือกับความผันผวนของราคาสินค้าเกษตร ภัยทางธรรมชาติ และสภาพอากาศที่ไม่เกื้อกูล เช่น ภัยแล้ง ได้ดีขึ้น
การศึกษานี้เปรียบเทียบเกษตรกรกลุ่มที่ปรับมาทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ (กลุ่ม NTA) กับเกษตรกรที่ทำการเกษตรแบบเดิมและพบว่า กลุ่ม NTA มีรายได้สุทธิจากการเกษตรเพิ่มขึ้น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากรายจ่ายในการซื้อปัจจัยในการทำเกษตร เช่น ปุ๋ย ที่ลดลง นอกจากนี้ โอกาสที่เกษตรกรกลุ่มนี้จะมีรายได้เป็นศูนย์ หรือ รายได้สุทธิติดลบก็ลดลง เนื่องจากการบริหารจัดการน้ำ ขยะ ปุ๋ยและดินที่ดีขึ้น ในส่วนของรายจ่ายเพื่อการบริโภค การศึกษาพบว่ารายจ่ายเพื่อซื้ออาหารในการบริโภคลดลงเล็กน้อยในกลุ่ม NTA และมีการบริโภคโปรตีนราคาถูก เช่น ไข่ไก่ เพิ่มขึ้นอีกด้วย