บทความ "โควิด-19 กับความยั่งยืนทางการคลังของประเทศไทย"
เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงาน PIER Policy Forum: Public Economics ออนไลน์โดยได้รับเกียรติจาก รศ.ดร.ศาสตรา สุดสวาสดิ์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ และ ผศ.ดร.ภาวิน ศิริประภานุกูล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มาบรรยายในหัวข้อ “โควิด-19 กับความยั่งยืนทางการคลังของประเทศไทย” โดยมี ดร.ฐิติมา ชูเชิด ธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้วิจารณ์
ดร.ศาสตรา และ ดร.ภาวิน ได้นำเสนอการประเมินผลกระทบทางการคลังจากการระบาดของโควิด-19 ผ่านช่องทางการออกมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ทั้งในและนอกระบบงบประมาณ รวมไปถึงผลกระทบที่เกิดจากเงื่อนไขทางเศรษฐกิจมหภาคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งส่งผลต่อรายได้และรายจ่ายของรัฐ ผลประมาณการเบื้องต้นพบว่า การขาดดุลงบประมาณจะเพิ่มขึ้น และหนี้สาธารณะมีแนวโน้มที่จะเพิ่มเกินระดับเพดานหนี้ที่ 60% ต่อ GDP ผู้นำเสนอให้ข้อคิดเห็นว่าการใช้นโยบายการคลังเพื่อเยียวยา ฟื้นฟู และกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเป็นสิ่งสำคัญ แต่ควรเป็นการใช้จ่ายอย่างมียุทธศาสตร์ ในระยะยาว รัฐบาลควรหาแหล่งรายได้เพิ่มผ่านการปรับโครงสร้างภาษี และขยายโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคม (social safety nets) เพื่อรองรับในยามฉุกเฉิน
ดร.ฐิติมา ให้ความเห็นเพิ่มเติมถึงความยั่งยืนทางการคลังของไทยหลังโควิด-19 ว่าขึ้นกับสามปัจจัยหลัก คือ การขยายตัวของเศรษฐกิจที่โตได้เร็วกว่าต้นทุนดอกเบี้ยจ่าย ประสิทธิผลของการก่อหนี้ใหม่ในการช่วยยกระดับ GDP และการจัดการภาระผูกพันทางการคลัง เช่น การช่วยรัฐวิสาหกิจทางการเงิน และรายจ่ายด้านสวัสดิการในสังคมสูงวัย