อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ผมมีโอกาสได้ร่วมงานกับสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ (PIER) ในฐานะ PIER Visiting Fellow มาอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเริ่มต้นของโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจาก PIER เพื่อศึกษาต้นทุนทางเศรษฐกิจของความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการวิเคราะห์ประเด็นนี้อย่างเป็นระบบ งานวิจัยดังกล่าวได้พัฒนาดัชนีวัดระดับความไม่แน่นอนทางการเมืองของไทย ซึ่งช่วยให้เห็นภาพความผันผวนทางการเมืองไทยที่ครอบคลุมระยะเวลากว่า 20 ปี ดัชนีนี้ไม่เพียงเป็นเครื่องมือที่สะท้อนสถานการณ์ภายในประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ยังเปิดโอกาสให้นักวิจัยนำไปต่อยอดในการวิเคราะห์ผลกระทบทางเศรษฐกิจในหลากหลายมิติ
ในเวลาต่อมา ผมยังได้ร่วมมือกับนักวิจัยของ PIER ในการพัฒนาดัชนีชี้วัดความไม่แน่นอนที่หลากหลายมากขึ้นทั้งด้านเศรษฐกิจ การเงินและการเมืองทั้งภายในและภายนอกประเทศ งานชุดนี้ทำให้ได้เรียนรู้ว่าระบบเศรษฐกิจไทยมีความเปราะบางต่อความไม่แน่นอนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่มาจากนโยบายทางเศรษฐกิจในต่างประเทศ ในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่าความไม่แน่นอนจากนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์กำลังสร้างแรงกดดันต่อระบบการค้าโลกเป็นอย่างมาก ดังนั้น การมีเครื่องมือในการวัดระดับความไม่แน่นอนและเข้าใจผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยจึงมีความสำคัญต่อการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางนโยบายในโลกที่เต็มไปด้วยความผันผวน
นอกจากหัวข้อเรื่องความไม่แน่นอนแล้ว ผมยังได้รับการสนับสนุนทุนจาก PIER เพื่อศึกษาความเชื่อมโยงระหว่างความเปิดกว้างทางการค้าและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของไทย ซึ่งถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับประเทศขนาดเล็กที่มีเศรษฐกิจเปิดอย่างไทย การวิเคราะห์บทบาทของอัตราแลกเปลี่ยนและระดับการเปิดทางการค้าจึงมีนัยสำคัญต่อนโยบายการเงิน ความเข้าใจเหล่านี้ช่วยให้ผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นท่ามกลางแรงกระแทกจากภายนอก ซึ่งส่งผลต่อความสามารถในการรักษาเสถียรภาพทั้งด้านเงินเฟ้อและผลผลิตในระยะยาว
จากการร่วมงานกับ PIER ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าจุดแข็งสำคัญของ PIER คือการเป็นเวทีกลางในการสร้างชุมชนนักวิจัยที่หลากหลาย มีความเป็นมืออาชีพ และมุ่งมั่นขับเคลื่อนประเด็นที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยอย่างแท้จริง PIER จึงมีบทบาทสำคัญ ทั้งในการเชื่อมโยงงานวิจัยเชิงลึกกับการออกแบบนโยบายสาธารณะที่มีคุณภาพ การเปิดพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเชิงนโยบายอย่างสร้างสรรค์ และการเผยแพร่องค์ความรู้ทางเศรษฐศาสตร์ในวงกว้าง
ในทศวรรษถัดไป ผมอยากเห็น PIER รักษาไว้ซึ่งบทบาทการเป็นสะพานเชื่อมระหว่างนักวิชาการและผู้กำหนดนโยบาย ที่จะช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถของระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินให้เท่าทันความท้าทายในโลกยุคใหม่ ผ่านการส่งเสริมงานวิจัยเชิงลึกที่มีคุณภาพ การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการทั้งจากภาควิชาการ ภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่งจะช่วยเปิดพื้นที่ให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้เชิงนโยบายในเชิงลึกและรอบด้านมากยิ่งขึ้น สุดท้าย การเผยแพร่งานวิจัยสู่สาธารณะในรูปแบบที่เข้าถึงได้จะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความเข้าใจร่วมกันในสังคม และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของระบบเศรษฐกิจไทย ภายใต้โลกที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ท้ายที่สุดนี้ ขอแสดงความยินดีกับ PIER ในโอกาสครบรอบ 10 ปี และขอขอบคุณสำหรับโอกาสในการร่วมงานกันตลอดที่ผ่านมา ผมเชื่อมั่นว่า PIER จะยังคงเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องเศรษฐกิจไทยต่อไปในอนาคต
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์: 0-2283-6066
Email: pier@bot.or.th
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2568 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
เอกสารเผยแพร่ทุกชิ้นสงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 3.0 Unported license
รับจดหมายข่าว PIER