ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
ที่ผ่านมาได้สัมผัสรวมถึงทำข่าวเกี่ยวกับงานวิจัยของ PIER จากหลาย ๆ บทความ พบว่า สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ สนใจปัญหาในด้านเศรษฐกิจฐานราก รวมทั้งขยายงานวิจัยไปสู่ “ปัญหาเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อเนื่องถึงสังคมไทย” ได้ดีอย่างที่ตั้งความหวังไว้ ยกตัวอย่างเช่น ซีรีย์งานวิจัยที่เกี่ยวกับหนี้ครัวเรือนและหนี้ในระบบราชการไทย ซึ่งสะท้อนภาพการดำเนินชีวิตของคนไทยจำนวนมากในระบบรากฐาน แนวคิดการจัดการทางการเงิน และความเหลื่อมล้ำของของประเทศไทยได้อย่างน่าสนใจ รวมทั้งบทความวิจัยที่เกี่ยวกับการออมของผู้สูงอายุ และระบบสวัสดิการของประเทศ บัตรคนจน ผลกระทบของฐานะทางการเงินในการตัดสินใจเรื่องการศึกษาของเด็กไทยในอนาคต และที่จำได้แม่น คือ บทความวิจัยที่เกี่ยวกับแนวคิดที่แตกต่างกันของคนต่างวัย เช่น บทความวิจัยเรื่อง “ทำไมน้องไม่แต่งงาน? ผลกระทบของการศึกษาต่อการตัดสินใจแต่งงานและมีลูกของผู้หญิงไทย”
ตั้งแต่วันแรกที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีแนวคิดที่จะก่อตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ้งภากรณ์ หรือ PIER ขึ้นมาเมื่อ 10 ปีก่อน ในฐานะนักข่าวที่คุ้นเคยกับแบงก์ชาติ มองว่า “เป็นอีกมิติหนึ่งของแบงก์ชาติ” ที่น่าสนใจมาก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า สถาบันวิจัยที่เกี่ยวข้องหรือถูกตั้งมาโดยหน่วยงานรัฐจะให้มุมมองได้มากและลงลึกแค่ไหน เพราะที่จริงแล้วในบริบทของสังคมไทย “นักข่าว”และ “นักวิจัย” มีมุมมองและบทบาทที่คล้ายกันมากกว่าที่คิด ทั้งสองอาชีพต่างพยายามที่จะเจาะลึกลงไปในประเด็นต่าง ๆ เพื่อตีแผ่ปัญหาที่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศไทย รวมทั้งพยายามนำเสนอหนทางหรือทางออกให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การปรากฎตัวของ PIER จึงมากกว่าการเป็นสถาบันวิจัยที่ช่วยหาข้อมูลเชิงลึกในระดับคนรากฐานของประเทศ และการวิจัยทฤษฎีใหม่ ๆ ของระบบเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการตัดสินใจด้านนโยบายการเงิน และนโยบายเศรษฐกิจของแบงก์ชาติเท่านั้น แต่ช่วยให้เห็นความพยายามลงจากหอคอยงาช้างของคนแบงก์ชาติ รวมทั้งความพยายามในการร่วมมือกับองค์กรอื่น ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น เพราะในหลาย ๆ งานวิจัยของ PIER เราได้เห็นนักเศรษฐศาสตร์ที่กำลังเป็นดาวรุ่งของสถาบันวิจัยอื่น ๆ รวมทั้งคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยมาร่วมงานด้วย
นอกจากนั้น นอกเหนือจากฐานะ “นักข่าว” ตัวเองได้มีโอกาสที่ดีที่ได้สัมผัสถึงพลังความกระตือรือร้น และความสนใจในการพัฒนาตนเองของของนักเศรษฐศาสตร์หนุ่มสาว เพราะในช่วงที่ผ่านมานั้น เป็นที่รู้กันว่า หนึ่งในจุดอ่อนของงานวิจัย คือ “อ่านยาก” ใช้ภาษาเศรษฐศาสตร์ที่ซับซ้อน ทำให้ผู้บริหาร PIER ในขณะนั้น ได้ชวนไปแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในเรื่อง “งานเขียน” เพื่อช่วยผสมผสานให้ “งานวิจัย” อ่านได้ง่ายขึ้น และเข้าถึงคนในหลากหลายระดับ ซึ่งการแลกเปลี่ยนในวันนั้นได้รับความสนใจจากนักเศรษฐศาสตร์ของ PIER มากกว่าที่คาดไว้มาก และถือเป็นความใฝ่รู้อันเป็นตัวอย่างที่ดีและน่าประทับใจสำหรับตัวเองมาจนถึงวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในโลกใหม่ที่ “ข้อมูลที่ลงลึก และถูกต้อง” ได้กลายเป็นหนึ่งส่วนสำคัญในยุทธศาสตร์หลักที่ใช้ในการดำเนินธุรกิจ ดังนั้น บทความวิจัยที่มาจากการเก็บข้อมูลสถิติที่กว้างขวาง ตรงไปตรงมา ถูกต้องตามหลักความจริง และนำมาวิเคราะห์วิจัยเพื่อสร้างสรรค์ ความรู้ และกลยุทธ์ใหม่ ๆ จึงเป็นที่ต้องการในสังคมไทยมากขึ้น และที่สำคัญมากกว่านั้น คือ การมีนักวิจัยที่มีคุณภาพ สื่อสารได้เข้าใจรู้เรื่อง มีความกล้าหาญที่จะสะท้อนภาพความจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ยืนหยัดและกล้าวิพากษ์วิจารณ์ความไม่ถูกต้องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยต้องการมากสำหรับการพัฒนาประเทศในอนาคต
หวังว่า PIER จะเป็นส่วนหนึ่งที่แข็งแกร่งของกระบวนพัฒนาประเทศในมิติของการนำเสนองานวิจัยที่มีคุณภาพต่อสาธารณชนในช่วงต่อไป เพื่อให้เกิดการต่อยอดและเปลี่ยนแปลงทางความคิด และนโยบายของประเทศไทยในทางที่ดีขึ้น
สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
273 ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
โทรศัพท์: 0-2283-6066
Email: pier@bot.or.th
สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2568 สถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์
เอกสารเผยแพร่ทุกชิ้นสงวนสิทธิ์ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-ShareAlike 3.0 Unported license
รับจดหมายข่าว PIER