ยกระดับภาคเกษตรต้นน้ำในภาคใต้ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม
บทสรุปผู้บริหาร
ภาคเกษตรเป็นสาขาเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้มาโดยตลอด แต่มีบทบาทลดลงในระยะหลัง ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากผลิตภาพ (productivity) ที่อยู่ในระดับต่ำ และราคาสินค้าเกษตรสำคัญที่ได้รับอิทธิพลจากราคาในตลาดโลก อันส่งผลต่อความมั่นคงของรายได้ครัวเรือนเกษตรกร
เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีความก้าวหน้าไปมาก ควรนำมาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการยกระดับภาคเกษตรต้นน้ำในภาคใต้ ทั้งเทคโนโลยีพื้นฐานทั่วไป อาทิ application บันทึกข้อมูลการผลิต ต่อเนื่องไปที่การใช้ Internet of Things (IoT) ในการพัฒนาระบบ automation จนถึงการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ปัญหาหลักของเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันมีลักษณะคล้ายกัน กล่าวคือ ขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องตามหลักวิชาการในการด้านการปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตที่มีคุณภาพ ทำให้ผลผลิตต่อไร่ (yield) ต่ำ ขณะที่เกษตรกรเพาะเลี้ยงกุ้งขาวประสบปัญหาหลักเรื่องต้นทุนสูงและขาดแคลนเงินทุน ซึ่งส่งผลต่อการเข้าถึงพันธุ์กุ้งที่มีประสิทธิภาพและขาดการพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยง เพื่อเพิ่มอัตรารอดท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากโรคระบาดอยู่เป็นระยะ
เกษตรกรมีข้อจำกัดในด้านการใช้เทคโนโลยี ได้แก่
- ระดับการเข้าถึงเทคโนโลยีต่ำ
- ขาดความพร้อมด้านองค์ความรู้และความเข้าใจนวัตกรรมของเกษตรกร
- เกษตรกรมองเทคโนโลยีเป็นเรื่องไกลตัวและให้ความสำคัญกับระดับราคามากกว่าการปรับปรุงผลิตภาพการผลิต และ
- ข้อจำกัดด้านเงินทุน
แนวทางการแก้ปัญหา ได้แก่
- สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรปรับทัศนคติ เกี่ยวกับองค์ความรู้ที่จำเป็นต่าง ๆ
- ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อกระจายองค์ความรู้และผลักดันให้เกิดการปรับตัว
- ส่งเสริมการรวมกลุ่มระหว่าง supply chain โดยใช้ราคาเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาวิธีการผลิต
- ภาครัฐควรทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และกระจายไปสู่เกษตรกรให้ได้อย่างทั่วถึง และ
- บูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานไปด้วยกันอย่างจริงจัง
ภาคเกษตรเป็นสาขาเศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้ โดยในปี 2561 มีสัดส่วนสูงถึง 21% ของ GRP (Gross Regional Product) ภาคใต้ ประกอบด้วย 4 สินค้าเกษตรสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ทุเรียน และกุ้งขาว
อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับในอดีต พบว่า บทบาทของภาคเกษตรลดลงไปพอสมควร โดยสาเหตุส่วนหนึ่งเกิดจากผลิตภาพ (productivity) ที่อยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะปาล์มน้ำมัน อีกส่วนหนึ่งมาจากต้นทุนการผลิตที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง โดยเฉพาะกุ้งขาว นอกจากนี้ ราคาสินค้าเกษตรสำคัญทั้งยางพารา ปาล์มน้ำมัน และกุ้งขาวได้รับอิทธิพลจากราคาในตลาดโลก ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อความมั่นคงของรายได้ครัวเรือนเกษตรกร อนึ่ง ในงานเสวนาครั้งนี้ เน้นการหารือที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาผลิตภาพ
เทคโนโลยีและนวัตกรรมในปัจจุบันมีความก้าวหน้าไปมากในหลากหลายมิติ ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อเพิ่มผลิตภาพภาคเกษตร โดยระดับของเทคโนโลยีฯ มีตั้งแต่ขั้นพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง
Basic technology and innovation เป็นเทคโนโลยีพื้นฐานทั่วไป ได้แก่ ระบบสารสนเทศ (IT) กลุ่มพวก application เก็บข้อมูล เก็บบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น รวมถึงนวัตกรรมกระบวนการ (process innovation) ซึ่งหมายถึงการประยุกต์ใช้แนวคิด วิธีการ หรือกระบวนการใหม่ ๆ ที่ส่งผลให้กระบวนการผลิตมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
Intermediate technology and innovation เป็นการเริ่มนำระบบ Internet of Things (IoT) มาใช้งานในการบริหารจัดการแปลงปลูก และทำให้เป็นระบบ automation มากขึ้น การใช้จักรกลเกษตรเพื่อลดการใช้แรงงาน กลุ่ม smart farmer/กลุ่ม smart aquaculture เช่น การใช้ IoT ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ใช้ tag RFID ในการติดตาม DNA ของพ่อแม่พันธุ์กุ้งขาวแวนนาไม เป็นต้น
Advanced technology and innovation อาทิ การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการปรับปรุงสายพันธุ์ การใช้ robotic for harvest, post-harvest การใช้ AI วิเคราะห์โรค ประเมินการเติบโต การใช้ระบบ GIS สำหรับวิเคราะห์เกษตรแปลงใหญ่ เพื่อทำให้การเกษตรมีความแม่นยำ
ข้อจำกัดของเกษตรกรในการใช้เทคโนโลยี คือ
ความพร้อมด้านองค์ความรู้ของการปลูกยางพารา ปาล์มน้ำมัน และการเลี้ยงกุ้ง โดยสาเหตุเกิดจากความแตกต่าง (gap) ระหว่างนวัตกรรมและความเข้าใจของเกษตรกรเอง นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ขณะที่เกษตรกรจำนวนมากเป็นผู้สูงอายุ ยึดวิธีการผลิตแบบเดิม ขาดความรู้ที่ทันสมัย แม้เกษตรกรรุ่นใหม่จะริเริ่มนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ แต่ยังคงมีสัดส่วนไม่มาก
ข้อจำกัดด้านเงินทุน การนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ จำเป็นต้องใช้เงินลงทุนเกี่ยวกับระบบบริหารจัดการ เกษตรกรรายย่อยไม่มีเงินลงทุนและขาดแรงจูงใจในการลงทุน ทำให้เสียโอกาสในการเข้าถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ นอกจากนี้ ในแต่ละสินค้าเกษตรสำคัญ มีปัญหาและข้อจำกัดดังนี้
การขาดความรู้เกี่ยวกับการจัดการสวนยาง เกษตรกรส่วนใหญ่เป็นรายย่อยและเป็นผู้สูงอายุ ทำให้การผลิตเกิด economies of scale ได้ยาก เกษตรกรเจอปัญหาต้นทุนสูงโดยเฉพาะค่าปุ๋ยบำรุงต้นยาง ค่าแรงงานกรีดยาง ค่าแรงทำยางพาราแผ่น นอกจากนี้ ยังพบว่าเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ทำบัญชีสวนยางและไม่บันทึกกิจกรรมการผลิต ทำให้การจัดการสวนยางอย่างมีประสิทธิภาพเป็นไปได้ยาก รวมทั้งยังยึดติดกับวิธีการปลูกแบบเดิม ๆ ไม่พัฒนาการปลูกให้ได้มาตรฐาน GAP (Good Agricultural Practice)
การทำสวนยางพาราในลักษณะพืชเชิงเดี่ยว เกษตรกรปลูกเฉพาะยางพารา ดังนั้น การเป็น price taker ทำให้รายได้มีความไม่แน่นอนสูง
เกษตรกรปลูกยางบนพื้นที่ที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้ไม่ได้รับความช่วยเหลือและเงินอุดหนุนจากกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง เกษตรกรกลุ่มนี้มักขาดความรู้ในการเพาะปลูก ดังนั้น ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ (yield) ในภาพรวมของประเทศจึงต่ำ
การขาดความรู้การปลูก การดูแล และการเก็บเกี่ยวที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ อาทิ การใส่ปุ๋ยจากการวิเคราะห์ดินและใบ ให้น้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ เกษตรกรตัดปาล์มน้ำมันดิบขายส่งลานเท
การขาดความเข้าใจในเทคโนโลยีพื้นฐานที่เป็นประโยชน์ เช่น การใช้ application บันทึกข้อมูลหรือติดตามผลผลิต ทั้งนี้ เนื่องจากเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันมีอายุค่อนข้างมาก อีกทั้งความรู้หรือเทคโนโลยีสมัยใหม่อาจขัดกับทัศนคติและความเชื่อเดิมของเกษตรกร ทำให้การยอมรับวิธีการหรือเทคโนโลยีสมัยใหม่น้อยกว่าที่ควรเป็น
การขาดเงินทุนในการบำรุงสวนปาล์มน้ำมัน อาทิ เกษตรกรบางรายที่มีสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ที่ขาดแหล่งน้ำตามธรรมชาติ ต้องลงทุนขุดสระเองเพื่อให้น้ำแก่ปาล์มน้ำมันในช่วงแล้งหรือฝนทิ้งช่วง ดังนั้นเกษตรกรรายเล็กมักมีข้อจำกัดด้านเงินทุนและละเลยการให้น้ำเพื่อเพิ่มผลผลิต ไม่สอดคล้องกับพื้นฐานของปาล์มน้ำมันซึ่งเป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก
ต้นทุนการเพาะเลี้ยงสูง โดยเฉพาะ ค่าอาหารกุ้ง (ปลาป่น) เคมีภัณฑ์และยาเพื่อรักษาสัตว์น้ำป่วยที่สืบเนื่องจากปัญหาโรคตายด่วน (EMS) รวมถึงโรคกุ้งอื่น ๆ อาทิ โรคขี้ขาว
ข้อจำกัดด้านการเงิน ส่งผลให้เกษตรกรรายย่อยไม่สามารถเข้าถึงพันธุ์กุ้งที่มีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีต้นทุนสูง
การขาดการพัฒนาระบบการเพาะเลี้ยง ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงจากบ่อดินเป็นบ่อลอย (ปูผ้ายางพารา ปูพลาสติก PE) เกษตรกรจำเป็นต้องลงทุนเพื่อขุดสระ ขยายพื้นที่ให้มีความเหมาะสมกับปริมาณลูกกุ้งที่เพาะเลี้ยง เพื่อลดความแออัดและลดต้นทุนที่เกิดจากความเสียหายจากโรคต่าง ๆ
หน่วยงานภาครัฐทราบถึงปัญหาการผลิตสินค้าเกษตรสำคัญในภาคใต้ และได้ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ก็ยังมีข้อจำกัด โดยการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ได้เริ่มปรับเงื่อนไขเงินสงเคราะห์การปลูกทดแทนเพื่อสนับสนุนการพัฒนามาตรฐานการปลูก ด้านการพัฒนาพันธุ์ยาง มีแนวคิดที่จะให้ข้อมูลพันธุ์ยางที่อยู่ระหว่างการวิจัย (ยังไม่ครบรอบการปลูกตลอดอายุ) ให้เกษตรกรได้รับทราบและตัดสินใจเลือก นอกจากนี้ ยังได้เริ่มดำเนินการ cleansing data โดยมีเป้าหมาย integrate กับข้อมูลอื่นในกระทรวงเกษตรฯ เพื่อใช้วางแผนนโยบาย อย่างไรก็ตาม ยังมีสิ่งที่ต้องดำเนินการและขยายผลอีกมาก โดยเฉพาะการแก้ปัญหาการปลูกในพื้นที่ไม่เหมาะสม
กรมประมงให้ความสำคัญกับงานวิจัยเพื่อแก้ปัญหาที่เกษตรกรพบในการเลี้ยงกุ้งขาว รวมถึง lab ตรวจที่มีคุณภาพ อย่างไรก็ตาม พบว่ามีแนวโน้มที่จะได้รับงบประมาณจากรัฐบาลลดลง
เกษตรจังหวัดมีบทบาทในการแก้ปัญหาและให้องค์ความรู้กับเกษตรกรโดยตรง อาทิ การทำเกษตรผสมผสาน อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อจำกัดด้านงบประมาณและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่ในแต่ละพื้นที่ยังมีไม่ครบทุกสินค้า
นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดเรื่องการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานต่าง ๆ ด้วย
สร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรปรับความคิดเกี่ยวกับองค์ความรู้ด้านการปลูกและการเก็บเกี่ยว รวมถึงการบริหารจัดการด้านต้นทุนและรายได้ ได้แก่
- การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตหรือพันธุ์ของพืชและสัตว์ให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมและความต้องการของตลาด
- วางแผนและหาวิธีเพื่อลดต้นทุนการผลิตมากกว่าการพิจารณาราคาขายในแต่ละช่วงเวลา
- คำนึงถึงความยั่งยืนในการปลูกหรือการเพาะเลี้ยง เช่น การเลือกใช้ปาล์มน้ำมันหรือยางพาราพันธุ์ดีที่มีคุณภาพเมื่อมีการปลูกทดแทนหรือปลูกใหม่ ระยะห่างการกรีดยางพารา ระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลปาล์มน้ำมันสุก รวมถึงยกระดับการปลูกสู่มาตรฐานสากล เป็นต้น ซึ่งในปัจจุบัน ภาครัฐรวมถึงนักวิชาการได้เริ่มดำเนินการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาการเพาะปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันแล้ว แต่ยังไม่แพร่หลายจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ
ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรให้มากขึ้น โดยเฉพาะปาล์มน้ำมันและกุ้งขาว เพื่อกระจายองค์ความรู้และผลักดันให้เกิดการปรับตัว อาทิ รวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อซื้อปัจจัยการผลิต ขายผลผลิต แลกเปลี่ยนความรู้ ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงการอำนวยความสะดวกด้านการเงิน เป็นต้น
ส่งเสริมการรวมกลุ่มระหว่าง supply chain โดยใช้ราคาเป็นแรงจูงใจในพัฒนาวิธีการผลิต ให้ได้รับประโยชน์ทั้งสองฝ่าย เช่น โรงงานอุตสาหกรรมสร้างแรงจูงใจให้เกษตรกรผลิตน้ำมันปาล์มอย่างยั่งยืนตามมาตรฐาน RSPO โดยส่งเสริมองค์ความรู้การปลูกและการเก็บเกี่ยว เพื่อให้ได้ปาล์มน้ำมันที่มีคุณภาพสูงขึ้น โรงงานมีต้นทุนลดลง และเกษตรกรได้รับราคาปาล์มน้ำมันที่ขายได้สูงขึ้น
ภาครัฐควรทำหน้าที่เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้และกระจายไปสู่เกษตรกร จากงานศึกษาพบว่า เกษตรกรสวนปาล์มน้ำมันมีการติดต่อเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อขอความช่วยเหลือหรือคำแนะนำเป็นสัดส่วนน้อยกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจัดส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปแนะนำแนวทางการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่น การเก็บตัวอย่างดินเพื่อไปวิเคราะห์องค์ประกอบและคุณภาพของดิน ซึ่งจะช่วยให้การใช้ปุ๋ยมีประสิทธิภาพมากขึ้น การปรับเปลี่ยนระบบการผลิตให้เป็นแบบเกษตรผสมผสาน ปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นร่วมด้วยเพื่อกระจายความเสี่ยงทางด้านการรายได้ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) เช่น การเลือกใช้พันธุ์ดี มีระบบจัดการและติดตามผลจากเทคโนโลยีพื้นฐาน เช่น การใช้ social media หรือ application เพื่อลดต้นทุนทางธุรกรรมและติดตามข่าวสารทางการเกษตรที่ทันสมัย เป็นต้น รวมถึงการวิจัยและพัฒนาพันธุ์พืชและสัตว์
ต้องบูรณาการความร่วมมือทุกหน่วยงานไปด้วยกันอย่างจริงจัง ประกอบด้วย นักวิชาการจากมหาวิทยาลัย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และอื่น ๆ เนื่องจากการแก้ไขปัญหามีความซับซ้อนและมีอุปสรรค ซึ่งอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ดังนั้น จะต้องคิดและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ